พาเที่ยว เขาช้างเผือก

พาเที่ยว เขาช้างเผือก 

ทริปนี้เกิดจากความ want ส่วนตัวที่อยากไปมาตั้งแต่ 5-6 ปีก่อน  ตอนยังไม่บูมมาก   แต่เนื่องจากความโหดพอควรทีนี่เลยชวนใครไปด้วยไม่ได้เลย   จนมาปีนี้เข้าทางอยู่ดีๆ เพื่อนชวนมา   ทริปนี้เลยเกิดขึ้นเป็นรูป เป็นร่างจริงๆ เสียทีกับที่นี่ “เขาช้างเผือก”

 

เขาช้างเผือก ตั้งอยุ่ในเขตความรับผิดชอบของ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี ผู้ที่จะเดินขึ้นเขาช้างเผือก จะต้องทำการติดต่อลงทะเบียนจองกับทางอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อนถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นไป เนื่องจากด้านบนนั้นมีสถานที่สำหรับกางเต๊นท์และห้องน้ำค่อนข้างจำกัด จึงต้องควบคุมปริมาณคนที่่จะขึ้นไปให้พอดีกับพื้นที่และจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลครับ แต่ละวันจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นไปวันละ 60 คนเท่านั้น
โดยการติดต่อลงทะเบียนปีล่าสุดที่ผมไปนี้ ( พย. 2557 ) ผู้ที่จะไปต้องทำการจองด้วยการโทรไปลงชื่อและส่งหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนของทุกคนที่จะขึ้นให้กับทางอุทยานแห่งชาติ โดยการทำการจองนั้นต้องจองก่อนวันที่ไป 7 วัน (เพิ่งมีกฏนี้ในปีนี้เอง) เพราะเนื่องจากที่ผ่านๆ มีมีคนที่ทำทัวร์ขึ้นเขาช้างเผือก โทรไปจองโควต้าล่วงหน้าหลายวันแล้วไปหาลูกทัวร์เอาบ้างก็เต็มจำนวน บ้างก็ไม่ครบจำนวน ทำให้เสียพื้นที่โควต้าคนที่ขึ้นไปเปล่าๆ ทำให้คนอื่นไม่ได้ขึ้นครับเพราะจากที่เขากำหนดไว้วนละ 60 คนนั้นเอง เอาเข้าจริงไปไม่ถึง จึงถือเป็นการเอาเปรียบคนอื่นที่จะไปครับ ด้วยเหตุนี้จึงต้องกำหนดให้จองและส่งหลักฐานคนที่ไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอดขึ้นนะครับ
เมื่อทราบขั้นตอนเรียบร้อยก็เตรียมการวางแผนโทรจองเลยครับนัดกับเพื่อนตื่นแต่เช้าโทรยิกเลย เพราะพลาดไม่ได้คนเตรียมไปเยอะมากโทรติดยากมาก แล้วก็สำเร็จ 9:00 น. ผมโทรปิดปั๊บ ลงชื่อหัวหน้าทีมและเบอร์โทรกับเจ้าหน้าที่เสร็จวางสายผมก็ส่งเอกสาร สำเนาบัตรประชาชนทุกคนในทีมให้ทางเจ้าหน้าที่ เลยทันทีและรอตอบกลับเรียบร้อยอีก 1 สัปดาห์เจอกันเขาช้างเผือก ( ถ้าไปวันธรรมดาจะสบายมากโทรสบาย คนไม่เยอะด้วย) ระหว่างนี้ก็เตรียมร่างกายและซื้อของใช้จำเป็นเตรียมไว้

เครื่องใช้ที่จำเป็น
– เสื้อผ้า เสื้อแขนยาว ( หรือปลอกแขน) + กางเกงขายาว เพราะระหว่างทางหญ้าคาสูงเท่าระดับไหล่เลยครับ ไม่งั้นคันแน่ๆ)
– แป้งเย็น ไว้ทาหลังจากทิชชู่เช็ดตัว
– ทิชชู่ ไว้ชุบน้ำถูตัว แทนการอาบน้ำ
– ไฟฉาย
– ถุงกันทาก / เสื้อกันฝน ( ถ้าไปช่วงยังมีฝน ติดไปด้วยครับ)
– รองเท้าหุ้มส้นดอกยางลึกๆ
– เต๊นท์ / ผ้าใบไว้ปูรองเผื่อนั่งรวมกินข้าว
– เตาแก๊สสนาม
– หม้อต้ม / จานกระดาษ/ แก้วกระดาษ ( แล้วแต่จัดเตรียม)
– ถุงใส่ขยะ ( ใส่เพื่อเอาลงมาด้วย )
– อาหาร ( มื้อเย็น + มื้อเช้า ส่วนมากผมเน้นอาหารแห้ง ตอนเช้าขนมปัง โจ๊ค แต่ใครอยากทำอาหารสดก็ตามสะดวก แต่มันเสียเวลาและหนักเท่านั้นเอง )
– น้ำดื่มสำคัญมาก คำนวณให้ดี ( ขาไปอากาศร้อนๆ กลุ่มผมใช้คนละ 2 ขวดเล็ก / ขากลับใช้ขวดเล็กขวดเดียวเหลือๆ ) นอกนั้นเป็นส่วนกลางไว้ทำอาหาร
– กล้อง พลาดไม่ได้เลยวิวสวยหลายจุด

เมื่อถึงวันเดินทางก็เดินทางล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน โดยผมและเพื่อนๆ หาที่พักในหมู่บ้านอิต่อง ( เลยจากที่ทำการ อช.ทองผาภูมิประมาณ 4-5 กิโล) ตื่นเช้าก็เตรียมตัวเก็บข้าวของสเบียงที่จำเป็นลงกระเป๋าเล็ก เครืองใช้ใส่กองรวมให้ลูกหาบรวมๆ ไว้เพื่อรวมใส่ถุงแบกให้เราขึ้นไป แล้วก็ไปพักทานเข้าเช้าและสั่งอาหารเที่ยงไว้กินระหว่างทางที่ร้านน้องหน่อยครับ ส่วนมากมาร้านนี้กันทั้งนั้นอร่อยดี ( และทำธุระส่วนตัวห้องน้ำให้เรียบร้อย ข้างบนมีสุขาแต่เป็นส้วมหลุมนะครับ มีสร้างใหม่ 1 หลัง แต่ผมแนะนำให้เข้าหลังเก่ากลิ่นจะแรงน้อยกว่า เพราะคนแห่ไปใช้ห้องใหม่หมด รีบหายใจจากด้านนอก รีบทำธุระ เล็งเผินๆ ให้แม่นๆ แล้วรีบออกมาครับ ^^” )

เริ่มเดินทางตอน 9 โมง จากตรงหมุ่บ้านอิต่อง ระยะทางประมาณ 8 กิโลขึ้นเขาไป ถือว่าอากาศดีครับแดดไม่แรงมาก แต่ก็มีแวะพักกันเรือยๆ วันนี้มากันเต็มพิกัด 60 คนเลยเพราะอั้นมาจากปีนี้ตอนตุลา ทางอุทยานแห่งชาติยังไม่ให้ขึ้นไป คนเลยออกมาตอนเดือนนี้กันหมดสำหรับใครที่ไม่ติดภาระกิจแนะนำวันะธรรมดาครับ ลักษณะทางก็มีชันมาก ชันน้อยสลับกันไป จะมีบางช่วงชันเกือบตั้งฉากเลยตรงนี้เสียวจริงเกือบหงายหลังลงเหว – -” แต่แค่ทางสั้นๆ นอกนั้นก็เดินเรือยๆ พักๆครับ
มื้อเที่ยงก็แวะกินข้าวที่ห่อมาตรงบริเวณป่าไผ่ ตรงนี้ถือเป็นจุดพักกินข้าวของทุกกลุ่มก็ว่าได้คนเพียบ หลังจากอิ่มก็เดินต่ออีกไม่ไกลถึงจุดกางเต๊นท์ตอนเวลาประมาณ 13:30 น. ครับ

ไปถึงลูกหาบเราก็กางเต๊นท์รอให้เราไว้เรียบร้อยแล้วปูข้าวของให้เสร็จสรรพดีจริงๆ
เราก็้นอนพักเอาแรงจนเวลาประมาณ 15:30 ชาวคณะก็เตรียมไปพิชิตยอดเขากันละ อันนี้ละได้ปีนป่ายสมใจ เส้นทางชันสลับโขดหินเป็นระยะ จนถึงสันคมมีดนั้นเองก็เรียงหนึ่งเข้าคิวปีนครับ เอาจริงๆ ก็ไม่เสียวเท่าไหร่นะครับเพราะปีหลังเจ้าหน้าที่เอาเชื่อกติดไว้ให้เราโหนปีนขี้นตามสเตปเลย จะมาเสียวอีกหลังจากจุดนั้นแล้วเดินมากว่าเพราะเป็นทางแคบๆ ซ้ายเหว ขวาเหวน่ะ แต่ก็เดินไปสบายๆ ก่อนถึงจุดเสาธงจะชันเอาเรืองเลยก็มีเชื่อกขึงให้ปีนขึ้นเช่นกัน

เมื่อขึ้นถึงจุดยอดเสาแล้ววิวเราจะเห็นโดยรอบเลยครับสวยดี ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก็อยู่บนนั้นจนเย็น ส่วนตัวผมอยู่รอกลับกับกลุ่มเกือบสุดท้ายเพราะต้องการถ่ายพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง แต่ต้องกะเวลาลงด้วยนะครับไม่งั้นมืดแล้วลำบากมากเพราะมืดสนิทจริงๆ ใช้เวลาเดินไม่นานก็กลับมาถึงเต๊นท์ที่พักมืดพอดี หลังทานข้าวก็พักผ่อนครับ เพลียกันมากๆ

รุ่งขึ้นก็ตื่นแต่ตี 5:30 (นี่ถ้าไม่เที่ยวยังไม่ตื่นแน่) มารอตะวันกันครับ ฟ้าเปิดใสๆ เลยครับ แต่เสียดายที่ไม่มีทะเลหมอก เนื่องจากหมดฝนไปหลายวันแล้วความชื้นเลยน้อย ไม่งั้นคงได้ภาพทะเลหมอกเต็มๆ แน่ๆ ถ่ายภาพเสร็จทานมื้อเช้าจน 8 โมงก็เริ่มเดินลงเขากันละครับ ขากลับเดินกันชิวมากๆ เพราะไม่ร้อนเลย เดินประมาณ 2:30 ชม ก็ถึงหมู่บ้านแล้ว เป้าหมายแรกเลยก็มุ่งไปร้านน้องหน่อยเลยโค๊กขวดลิตร ใส่น้ำแข็ง จนอิ่มกินแทนข้าวเลย ^^ เป็นอันจบทริปเขาช้างเผือกที่รอคอยละ ท่านไดสนใจก็เตรียมตัว เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนมานะครับ แต่รับรองสวยคุ้มความเหนื่อยจริงๆ มันส์ เสียว ครบรส

ระยะเวลาที่เปิดให้เดินขึ้นเขาช้างเผือก ( 1 พย. – 31 มค.) ปีก่อนๆ เดือนตุลาก็เปิดแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเช็คกับทางอุทยานอีกที เพราะแต่ละปีอาจจะเปิดไม่เท่ากันตามสภาพอากาศปีนั้นๆ

ค่าใช้จ่าย: ค่าเจ้าหน้าที่ 1 คน = 1,200 บาท ( 1 คนนี่คือเจ้าหน้าที่ไม่ใช่นับจากจำนวนคนที่ขึ้นเขานะ)
ค่าลูกหาบ 2 คน = 1,100 บาท (2 คน) = 2,200 บาท ( 1 คนนี่คือลูกหาบที่ไม่ใช่นับจากจำนวนคนที่ขึ้นเขานะ ลูกหาบ 1 คนรับน้ำหนักได้ 30 กก. ครับในที่นี้กลุ่มผมใช้ลูกหาบ 2 คน )
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ 40 บาท/คน
ค่าทำเนียมกางเต๊นท์ 50 บาท/คน

เบอร์ติดต่อ-จอง : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 081-3820359 ( ปี 2559 ทางอช. เปลียนเป็นเบอร์ 098-252 0359) ,034-510979

การเดินทาง

1. โดยรถยนต์ส่วนตัวออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงตัวเมืองกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ ถึงตลาดอำเภอทองผาภูมิระยะทางประมาณ 141 กิโลเมตร จากตัวอำเภอทองผาภูมิ ใช้เส้นทางหมายเลข 3272 สายทองผาภูมิ – บ้านไร่-ปิล๊อก ถึงสามแยกบ้านไร่เลี้ยวซ้ายไปตาม เส้นทางคดเคี้ยวบนเขา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิซึ่งจะตั้งอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 21 – 22 เป็นเส้นทางลาดยางตลอดสาย ( แต่เป็นหลุมเป็นบ่อหลายจุด) เลยไปอีกประมาณ 4-5 กิโลก็ถึงหมู่บ้านอิต่อง ( รถเก๋งก็ไปได้ครับ แต่ต้องใช้ประสบการณ์ทางขึ้นเขาชันพอประมาณใช้เกียร์ low โยกและหยอดบางจุด )

2. โดยรถยนต์โดยสารประจำทาง
ขึ้นรถจากสถานีขนส่งสายใต้ลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรีและต่อรถประจำทางสายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ ลงที่ตลาดอำเภอทองผาภูมิ จากนั้นต่อรถประจำทางสายทองผาภูมิ – บ้านอีต่อง( ขาขึ้นบ้านอิต่องมีวันละ 2 เที่ยว เช้าตรู่กับเที่ยง แค่นั่น) ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เลยไปอีกประมาณ 4-5 กิโลก็ถึงหมู่บ้านอิต่อง

ที่พัก  ทริปนี้เราพักโฮมสเตในหมู่บ้านอิต่องครับ  หากใครไม่สะดวกพักที่อิต่องอยากพักที่ตัวอ.ทองผาภูมิก็ได้ครับมีหลายโรงแรมแต่ต้องเผื่อเวลาขึ้นเขาแต่เช้านะครับ  ลองเช็คดูครับ
>> โรงแรมในทองผาภูมิ  <<

ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ  รับรองครบรสที่นี่สำหรับการเดินป่าระดับเริ่มต้น  พาเที่ยว.คอม สนับสนุนให้ท่องเที่ยวไทยกันนะครับ

Share this: Twitter | StumbleUpon | Facebook | digg

Comments

comments