พาเที่ยว ดอยหลวงเชียงดาว (โหด ระทึก ฟิน)

พาเที่ยว ดอยหลวงเชียงดาว (โหด ระทึก ฟิน)

สวัสดีเพื่อนชาว พาเที่ยว.คอม วันนี้จะรีวิวทริปทรมานสังขารเล่นๆ ซะหน่อยครับ หลังจากปีก่อนพิชิตเขาช้างเผือก กันไปแล้วปีนี้เลยหาที่อื่นที่ไต่ระดับความโหดไปอีก ก็ลงเอยกันที่ ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ นั่นเองครับ หลังจากเฝ้ารอวางแผนกันข้ามปี
กันเลยทีเดียว

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาวเป็นภูเขาหินปูนล้วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย โดยจุดยอดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,225 เมตร ถือเป็นเขาสูงสุดอันดับที่ 3 ของประเทศไทยเลยทีเดียว (รองจากดอยอินทนนท์ 2,565 เมตร
และดอยผ้าห่มปก 2,285 เมตร ) โดยบริเวณนี้จะมีเขาหลายลูกให้ได้ชื่นชมวิวกัน แต่ที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมได้แก่ ยอดดอยสามพี่น้อง ยอดดอยกิ่วลม และยอดดอยสูงสุด
ดอยหลวงเชียงดาว ชื่อนี้ได้ยินมาก็บ่อยแล้วโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแนว adventure หรือช่างภาพ แนวเดินป่ากัน สำหรับใครที่เคยไปแนวนี้มาบ้างแล้วก็คงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรกันมาก แต่สำหรับมือใหม่ในการเที่ยวแนวนี้อาจจะต้องเตรียมตัวให้มากหน่อยนะ
ครับทั้งข้อมูล และความพร้อมของร่างกายซึ่งต้องเตรียมความพร้อมอยู่พอสมควรครับ กับระยะการเดินขึ้นเขาแบบนี้หากไม่ฟิตพออาจจะร่วงและเป็นภาระต่อเพื่อนร่วมทริปคนอื่นได้

ดอยหลวงเชียงดาวไม่ใช่ว่าอยากไปเมื่อไหร่ ก็ไปได้
การจะขึ้นไปพิชิตดอยหลวงเชียงดาวนั้น ไม่ใช่ว่านึกสนุกอยากไปเมื่อไหร่ปุบปับก็ไปได้เลย การเที่ยวแนวเดินป่านั้นส่วนมากจะเหมือนๆ กันทุกที่คือ ต้องติดต่อขออนุญาตเข้าเขตฯเชียงดาวล่วงหน้า อย่างน้อย 15 วัน เพราะที่นี่จะกำหนดจำนวนคนที่ 200 คน/วัน (นับรวมลูกหาบด้วย) และเปิดให้ขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์เท่านั้น ดังนั้นใครจะไปต้องเตรียมตัวและโทรจองกันแต่เนิ่นๆ เพราะในช่วงพีคๆ นี่ ส่วนมากจะมีเวปจัดทริปลงคิวกันแน่นเอี๊ยด ( ถ้าเป็นไปได้ไปช่วงวันธรรมดาจะสบายมาก ถ่ายภาพสบาย
ไม่แย่งมุม ถ่ายดาวไม่มีแสงไฟฉายกวนด้วยอันนี้แนะนำส่วนตัวครับ รูปผมเสียเพราะแสงไฟฉายวันสุดท้ายเยอะมาก เซ็ง – -” )

ดอยกิ่วลม

ดอยกิ่วลม

และดอยหลวงเชียงดาวด้านบนไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกไดๆ ทั้งสิ้นท่านจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมโดยหลักๆ ผมลิสไว้ประมาณนี้

การเตรียมตัวทริปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว
1 เครื่องแต่งกายสำหรับทริปนี้
– กางเกงขายาว: ทริปนี้ไม่แนะนำกางเกงยีนส์เพราะจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดเวลาเดิน
-เสื้อ : เสื้อแขนยาวหรือเสื้อฟุตบอลแล้วสวมปลอกแขน (ระบายอากาศดีและกันแดดกันหญ้าคาบาด)
– รองเท้า:ควรจะเตรียมรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อและมีดอกยางลึกๆ
-ถุงเท้า : ควรเลือกแบบหนาๆ ผ้าไม่ลื่นเดินไกลๆ เท้าอาจจะพองได้ง่ายๆ และเตรียมแยกไปอีกคู่ใส่กันหนาวเวลานอน
-หมวก / ผ้าคลุมหน้า : เอาไว้ใส่ป้องกันแสงแดด
-เสื้อกันฝน: อากาศที่นี่แปรปรวนง่ายๆ ติดไว้เผื่อๆ
-เสื้อกันหนาว : ข้างบนหนาวเลย ฤดูหนาวสุดเคยมีติดลบ
– กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระ  แยก 2 ใบ  ใบแรกใส่ของรวมๆ ทีไม่ได้เขาขึ้นดอย  ใบสองใส่เสื้อผ้าและของจำเป็นสำหรับขึ้นเขาเท่านั้น
– กล้อง/ขาตั้ง: ตามต้องการและร่างกายที่แบกไหว

2. ของใช้ส่วนตัว
– ไฟฉาย (ถ้าใช้แบบคาดหน้าผากจะสะดวกกว่ามากเวลาปีนยอดเขา)
– ยาสีฟัน แปรงสีฟัน
– สเปรย์กันยุง (ยาทากันยุง)
– ทิชชู่ ไว้ชุบน้ำเช็ดตัว
– แป้ง ( ไว้ทาหลังอาบแห้ง มันช่วยได้จริงๆ)
– เต๊นท์ + ถุงนอน
– ผ้าห่ม (ถ้าไม่ใช่ฤดุหนาว ใส่เสื้อกันหนาวกับถุงนอนก็เอาอยู่)
– ผงเกลือแร่ (ไว้ใส่ผสมน้ำกินระหว่างเดิน )
– ยาประจำตัวที่จำเป็น

3. ของใช้ส่วนรวม 
– ชาม ถ้วย กระดาษ (ทนร้อนและไม่ต้องเปลืองน้ำในการล้าง)
– ช้อน ส้อม ทับพี ตะหลิว
– ผ้าใบไว้กางนั่งทานข้าว และอีกผืนขึงกันน้ำค้างหากต้องการทำพื้นที่นั่งทานข้าวในกลุ่มกัน
– โคมไฟไว้ตั้งส่องสว่างรวมกลุ่มกินข้าว ( หากคิดจะรวมกลุ่มนั่งกันก็ไม่ต้อง)
– เตาสะนาม แก๊ซกระป๋อง ไว้ทำอาหาร
– พลั่วเล็ก ( ไว้ขุดกลบสร้าง landmark ในป่า) สุขามีแต่แนะนำว่าติดไปดีกว่า
– อาหาร วัตถุดิบ แล้วแต่เมนู จัดกันไปแต่พอดีเน้นไปทางใช้น้ำไม่มาก

4. สำคัญมาก “น้ำ” กลุ่มผมใช้เฉลี่ย 1.8 ลิตร/คน/วัน (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอาหารที่ทำในแต่ละมื้อ) โดยคำนวนให้ดีหากน้ำไม่พอ ข้างบนลูกหาบมีขายแต่แน่นอนราคาจัดเต็ม ผมได้ยินกลุ่มอื่นถาม 20 ลิตร / 700 บาท นะครับดังนั้นเตรียมให้ดี
และแจกน้ำขวดเล็ก 600 ml คนละ 2 ขวด พกติดตัวระหว่างเดิน

ถ้าดวงดีก็มีโอกาสเห็นเลียงผาบนยอดดอยกัน

ถ้าดวงดีก็มีโอกาสเห็นเลียงผาบนยอดดอยกัน

ค่าใช้จ่ายต่างๆ
– ค่ารถกระบะไปส่ง 1,800 บาท/ คัน ( ราคานี้ไปส่งที่เด่นหญ็าขัด ไปรับที่ปางวัว ) หากเปลียนจุดรับส่งจะไม่ใช่ราคานี้เพราะระยะทางไม่เท่ากัน โปรดสอบถามก่อน และในการจ้างกระบะต้องรวมจำนวนลูกหาบไปด้วยนะครับ ต่อ 1 คันรวมแล้วประมาณ 8-9 คน
– ค่าลูกหาบ 450 / คน / วัน ( หนึ่งคนแบกน้ำหนักได้ 20 กก. ) โดยนับวันทั้งหมดไม่ใช่นับแค่วันขึ้นลงนะ
– ค่ากางเต๊นท์ 30 บาท/ คน / คืน
– ค่าเต๊นท์ + ถุงนอน (หากใครต้องการเช่า แจ้งที่ทำการได้เลย) = 150 บาท/ หลัง / คืน
– ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 20 บาท / คน
– ค่ามัดจำขยะทีมละ 300 บาท ( จะทำการตรวจขยะสิ่งที่นำขึ้นไป และจะคืนให้เมื่อนำขยะเหล่านั้นลงมา )

แผนที่และการเดินทาง
การเดินทางไปที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว

นับจากตัวเมืองเชียงใหม่วิ่งออกถนนหมายเลข 107 ( เชียงใหม่-ฝาง ) มุ่งหน้าผ่านแม่ริม ขับตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 70 กม. จะผ่านแยก อ.เชียงดาว ก็ยังขับตรงไปเรื่อยๆ ( หากต้องการซื้อของก็แวะกันได้ที่ อ.เชียงดาว ) เมื่อตรงไปถนนเลข 107 เรื่อยๆ อีกประมาณ 2
กม. ถึงหลักกิโลที่ 71-72 จะมีป้ายบอกทางตรงแยกไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ( ป้ายเล็กๆ) เลี้ยวซ้ายเข้าไปเรื่อยก็ถึงที่ทำการ

เส้นทางเดินเท้าสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาว

การเดินทางทริปนี้เป็นการขับรถไปกันเองกับเพื่อน จากกรุงเทพยิงตรงไปยัง อ.เชียงดาว เลยแล้วหาที่พักเพื่อเอาแรงก่อน 1 คืน (ส่วนมากพวกจัดทริปต่างๆ จะเหมารถตู้กันมาแต่หัวค่ำ ถึงตอนเช้าก็เดินกันเลย )
ในตอนเช้าเราย้อนไปที่ตัว อ.เชียงดาว ในตอนเช้าก่อนเพื่อทานมื้อเช้า และสั่งข้าวห่อกับที่ร้านเลยไว้เป็นมื้อกลางวันในระหว่างทางที่เราเดิน แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เพื่อลงทะเบียนและแบ่งของต่างๆ กับลูกหาบและรถรับส่ง
กันที่นี่ โดยกลุ่มของผมเลือกขึ้นทางเส้นเด่นหญ้าขัดเพราะชันน้อยกว่าแม้จะเดินไกลกว่าก็ตาม (เชื่อผมเหอะเดินขึ้นเส้นนี้ดีแล้ว 😉 ) เมื่อเราเตรียมตัวเสร็จก็ขึ้นรถกระบะพี่เขาเลย เพื่อไปส่งจุดเริ่มเดินใช้เวลาประมาณ 45 นาที เราก็มาถึงจุดสตาร์ท หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด) ตลอดทางเป็นทางขึ้นเขาลูกรัง หินใหญ่ๆ และทางแคบต้องใช้กระบะ 4WD เท่านั้นที่ขึ้นมา ทางโหดมากนั่งกันก้นระบมเลย (ผมนั่งกระบะหลัง – -” )

เมื่อถึงเราลุยกันเลยถึงกันนับว่าสายแล้ว 10:30 น. เราเดินกันอย่างเรื่อยๆ แรกๆ ทางเดินสบายๆ ขึ้นบ้างลงบ้างไม่ชัน มีต้นไม้ร่มรื่น เลาะๆริมเขาก็มีใช้เวลากันไม่นานนักก็ไปถึง 3 แยก ปางวัว / ยอดสูงสุด / เด่นหญ้าขัด พอหลังจากนี้แหละก็จะเป็นทุ่งหญ้ากว้างๆ ริมเขาซึ่งเป็นทางขึ้นตลอด ประมาณ 2 กม. สุดท้ายแล้วและบวกกับระยทางที่เดินมา ทำให้ขาเราล้ามากๆ ต้องพักกันถี่ขึ้นๆ จนเวลาประมาณ 15:30 น. เราก็ไปถึงจุดตั้งแคมป์เรียบร้อย ใช้เวลาไป 5 ชม. เต็มในการเดินก็พักได้สักพัก

ทางขึ้นพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว

ทางขึ้นพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว

เราก็ลุยพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวกันเลย ทางขึ้นยอดดอยอันนี้ค่อนข้างต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะจะเป็นดินร่วนๆ และมีโขดหินตลอดต้องวางเท้ากันดีๆ ทางขึ้นชันตลอด 45-60 องศาตลอด บางจังหวะต้องใช้การปีนบ้างจุดนี้ใช้เวลาขึ้นประมาณ 40 นาทีก็ถึงจุดยอดสุดดอยหลวงเชียงดาว แต่เชื่อเหอะครับว่าเห็นความงามแล้วจะหายเหนื่อยเลยแน่ๆ

ตี 4 ครึ่ง ผมก็ลุยต่อเพื่อไปพิชิตยอดกิ่วลมกันต่อ เพื่อไปถ่ายดาวและตะวันขึ้นด้วย ทางขึ้นแรกๆ ก็เป็นทุ่งหญ้าเลาะอีกเช่นเคย เมื่อถึงเชิงเขาก็จะเป็นหินปูนให้เราต้องปีนขึ้นตลอดครับ ความชันพอๆ กันอากาศเย็นแต่เหงือโซกครับ ช่วงท้ายๆก่อนยอดจะเป็นหินล้วนๆ ให้เราปีนกัน ผมใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ไปถึงยอดกิ่วลมรอถ่ายภาพกันมา ผมขึ้นยอดกิ่วลม 3 รอบเลย (ทำไปได้ ^^” ) หลังจากได้ภาพกันพอประมาณก็ลงกันละครับ

ทางช้างเผือก จากดอยหลวงเชียงดาว

ทางช้างเผือก จากดอยหลวงเชียงดาว

การเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวเพื่อให้เต็มอิ่มในการชมวิวจุดต่างๆ แนะนำเป็นทริป 3 วัน 2 คืน ครับ เพราะเราจะได้ชมวิวกันอย่างจุใจในเวลาที่สวยงาม และอีกอย่างครับเพื่อพักขาของเราด้วย แต่อันนี้ก็แล้วแต่นะครับตอนผมไปบางกลุ่มก็มากันคืนเดียวรุ่งเช้าก็กลับแล้ว ฟิตมากๆ ซึ่งที่บอกไปที่จะทรมานขาเราไม่ใช่ฝั่งขาขึ้นหรอก แต่เป็นขาลงนี่แหละครับ – -”

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว

ตัดภาพมากันที่วันลงเลยเช้าอีกวัน หลังจากเก็บของเสร็จก็เริ่มเดินละครับ ตอน 9:30 หากิ่งไม้แข็งๆ เพื่อเป็นไม้เท้าช่วงพยุงแรงที่ขาเรา ทางลงเรานัดรถไว้ที่ปางวัว โดยทางช่วงแรกจะเป็นเส้นทางเดิมที่ขึ้นมาน่ะ เดินกันชิวๆ เรื่อยๆ ถ่ายภาพไปจนถึงจุด 3 แยกเดิม เด่นหญ้าขัด/ปางวัว/จุดยอด เราก็เลี้ยวไปทางปางวัว เมื่อเข้าแยกนี้ไปสักพักผ่านดงกล้วยป่า เลาะไปทีนี้แหละของจริง เป็นทางลงชันมากเป็นดินชื้นๆ ลื่นๆ ครับต้องเดินอย่างระวังมากๆ และน้ำหนักตัวจะกระแทกลงที่เข่าเราทำให้ปวดเข่าได้ ทีนี้แหละไม้เท้าได้ใช้งานเต็มๆ ละครับ ตอนกลุ่มผมลงก็สวนกับหลายกลุ่มเหมือนกันที่ขึ้นจากทางนี้ ดูจากสีหน้าแต่ละคนแล้ว บอกถึงความท้อเลย ( ก็ได้แต่ให้กำลังใจกันไปครับ ) เราเดินแทบไม่พักเลยขาลง 13:15 ก็ถึงปลายทางใช้เวลาไป 3:45 นาที พี่รถกระบะที่เรานัดไว้ก็รอเราอยู่แล้ว เป็นอันปิดทริปเดินป่าโหดๆ อีกทริปของเราอย่างสวัสดิภาพ

ติดต่อ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทรศัพท์ 053-455802, 089-955 1417 ,02-561 4832
พี่นงค์ 086-1820484 (เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว )

ที่พัก : ที่พักในตัว อ.เชียงดาว หากใครต้องการพักผ่อนวันก่อนขึ้นหรือวันลงจากดอยหาที่พักไว้เป็นดีครับ >>ที่พักเชียงดาว <<


Share this: Twitter | StumbleUpon | Facebook | digg

Comments

comments

เรื่องนี้ถูกเขียนใน เที่ยวธรรมชาติ และติดป้ายกำกับ , , , , , , , , , , , , , , , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร